tag:blogger.com,1999:blog-55489105011789786912024-02-20T18:23:04.906-08:00Tourwat@Maesariangทำบุญไหว้พระหลายวัดที่แม่สะเรียง
เว็บไซต์ส่งเสริมการท่องเที่ยวภาคเอกชนบ้านยอดตำลืง เชียงดาวhttp://www.blogger.com/profile/12045901187752010250noreply@blogger.comBlogger5125tag:blogger.com,1999:blog-5548910501178978691.post-36037636331247720712010-01-23T02:26:00.000-08:002010-09-01T00:10:25.737-07:00อุทยานหิน ฟอสซิล400ล้านปี ที่แม่สะเรียง<a href="http://2.bp.blogspot.com/_qKOKePM2V5s/TH361iQUnQI/AAAAAAAAG00/ikfcBgvjW7M/s1600/%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%B4%E0%B8%99400%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%B5%5B1%5D.png"><img style="display:block; margin:0px auto 10px; text-align:center;cursor:pointer; cursor:hand;width: 300px; height: 225px;" src="http://2.bp.blogspot.com/_qKOKePM2V5s/TH361iQUnQI/AAAAAAAAG00/ikfcBgvjW7M/s320/%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%B4%E0%B8%99400%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%B5%5B1%5D.png" border="0" alt=""id="BLOGGER_PHOTO_ID_5511837316606631170" /></a><br />ฟอสซิล 400 ล้านปี ที่แม่สะเรียง<br />พบฟอสซิลที่บ้าน"ดงสงัด"เพิ่มที่เที่ยวด้านธรณีวิทยา แม่ฮ่องสอน - จังหวัดแม่ฮ่องสอนเตรียมผลัดดัน "บ้านดงสงัด" เป็นแหล่งท่องเที่ยวด้านธรณีวิทยา หลังพบฟอสซิลซากสัตว์ดึกดำบรรพ์อายุกว่า 400 ล้านปี ในพื้นที่จากการพบฟอสซิล หรือซากดึกดำบรรพ์ อายุประมาณ 400 ล้านปี ในพื้นที่ บ้านดงสงัด ต.แม่สะเรียง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งถือเป็นแหล่งฟอสซิลที่มีคุณค่าทางด้านการศึกษาความเป็นมาวิวัฒนาการของโลกนายธงชัย วงศ์เหรียญทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายเดชา สัตถาผล นายอำเภอแม่สะเรียง พร้อมด้วยนางเบ็ญจวรรณ รัตนเสถียร อาจารย์พิเศษภาควิชาธรณีวิทยา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้สำรวจซากฟอสซิลที่พบ ซึ่งทางอำเภอแม่สะเรียงเตรียมผลักดันให้เป็นแหล่งเที่ยวแห่งใหม่ในอนาคตนางเบ็ญจวรรณเปิดเผยว่า หลังมีการสำรวจฟอสซิลที่พบว่าสิ่งที่พบมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ซึ่งหินในพื้นที่ดังกล่าวมีลักษณะของแร่ดินแทรกอยู่ เป็นหินยุคออร์โดวิเชียน อายุประมาณ 400 ล้านปี ในอดีตที่ผ่านมาเชื่อได้ว่าพื้นที่แห่งนี้เป็นทะเลมาก่อนเนื่องจากเบื้องต้นของการสำรวจพบฟอสซิลอย่างน้อย 3 ตัว เช่น ฟอสซิลฟองน้ำ หอย แอมโนโซปัส และรอยแยกของเปลือกโลก ทั้งนี้ แหล่งฟอสซิลพบแห่งนี้นับว่าเป็นแหล่งฟอสซิลที่น่าศึกษามาก คิดว่าในอนาคตน่าจะปรับปรุงให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและศูนย์การเรียนรู้ด้านธรณีวิทยาแก่เด็กเยาวชนและผู้ที่สนใจ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการศึกษาด้านภาควิชาประวัติศาสตร์ โบราณคดีอยู่ระหว่าง วัดพระธาตุจอมทองและวัดบ้านไร่ ไกล้กับบ้านยอดตำลึง แม่สะเรียง บริเวณยอดเขา ไกล้กับฟอสซิล เป็นสำนักสงฆ์ มีน้ำไหลตลอดปี เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ การเตรียมตัวสำหรับการขื้นชม เส้นทางขื้นเขาสูงชัน ควรใช้รองเท้าผ้าใบ เตรียมน้ำดื่มและอาหาร ไม่ควรสูบบุหรี่หรือจุดไฟ ห้ามขีดเขียนรูปรอยเด็ดขาด ผู้ที่มีโรคความดันสูงและโรคหัวใจควรระวังเป็นพิเศษ ติดต่อสอบถาม http://ban-yodtumlueng.blogspot.com/<br /><a href="http://cid-3373db19dd28da3a.skydrive.live.com/browse.aspx?path=%2f%e0%b8%ad%e0%b8%b8%e0%b8%97%e0%b8%a2%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%ab%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%9f%e0%b8%ad%e0%b8%aa%e0%b8%8b%e0%b8%b4%e0%b8%a5%20400%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%9b%e0%b8%b5%20%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b9%81%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b8%aa%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%87&sa=653705426"></a><a href="http://fossilparkmaesariang.blogspot.com/">คลิ๊ก อุทยานหิน</a>บ้านยอดตำลืง เชียงดาวhttp://www.blogger.com/profile/12045901187752010250noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5548910501178978691.post-41968579719990103552009-08-31T23:47:00.000-07:002009-09-01T00:10:55.332-07:00น้ำป่าท่วมที่แม่สะเรียงเหตุการณ์น้ำท่วมที่แม่สะเรียงเกิดจากน้ำป่าไหลหลาก flood events that the maesaraing is born from the flash flood flows <a href="http://cid-3373db19dd28da3a.skydrive.live.com/browse.aspx/%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%b3%e0%b8%9b%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b9%81%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b8%aa%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%87%201%e0%b8%81.%e0%b8%a2.52">น้ำป่าท่วมที่แม่สะเรียง</a>บ้านยอดตำลืง เชียงดาวhttp://www.blogger.com/profile/12045901187752010250noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5548910501178978691.post-25902255639203775832008-09-03T22:08:00.000-07:002008-09-03T22:18:57.662-07:00บ้านยอดตำลึง แม่สะเรียง สนับสนุนการทำบุญไหว้พระ และการท่องเที่ยวท้องถิ่น<a href="http://3.bp.blogspot.com/_qKOKePM2V5s/SL9vnhArwCI/AAAAAAAAC5Q/VQsLnwD_h2w/s1600-h/DSCF3161.jpg"><img style="display:block; margin:0px auto 10px; text-align:center;cursor:pointer; cursor:hand;" src="http://3.bp.blogspot.com/_qKOKePM2V5s/SL9vnhArwCI/AAAAAAAAC5Q/VQsLnwD_h2w/s200/DSCF3161.jpg" border="0" alt=""id="BLOGGER_PHOTO_ID_5242031215949365282" /></a><br /> การส่งเสริมการท่องเที่ยวภาคเอกชนสนัสนุนการท่องเที่ยวภาครัฐทุกรูปแบบเพื่อกระตุ้นและส่งเสริมธุรกิจที่เกี่ยวข้อง<br /> บ้านยอดตำลึง แม่สะเรียงขอสนับสนุนกิจกรรมดังกล่าวด้วยความยินดียิ่ง...บ้านยอดตำลืง เชียงดาวhttp://www.blogger.com/profile/12045901187752010250noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5548910501178978691.post-2591918256671816032008-09-03T21:41:00.000-07:002008-09-03T21:47:44.156-07:00เมืองแม่สะเรียง จาก แม่สะเรียง.คอมแม่สะเรียง มีชื่อเรียกในประวัติศาสตร์ว่า เมืองยวมใต้ หรือเมืองยวม เคยเป็นที่ตั้งชุมชนมาไม่น้อยกว่า 520 ปี เมืองยวมเคยเป็นถิ่นฐานอาศัยของชนเผ่าดั้งเดิม คือ ละว้า และกะเหรี่ยง ต่อมาในปี พ.ศ. 2443 ทางราชการได้ยกฐานะขึ้นเป็นอำเภอเรียกชื่อว่า “อำเภอเมืองยวม” โดยอาศัยชื่อของลำน้ำแม่ยวมที่ไหลผ่านอำเภอ นายอำเภอคนแรกชื่อ ขุนชำนาญธนานุรักษ์ (นายสวัสดิ์ ชลัย) ต่อมาทางการได้พิจารณาเห็นว่าชื่อ อำเภอเมืองยวมนั้น ไปพ้องกับอำเภอขุนยวม ซึ่งอยู่ในจังหวัดเดียวกัน ซึ่งได้เปลี่ยนชื่อเป็น “อำเภอ<br />แม่สะเรียง” ตามชื่อของแม่น้ำแม่สะเรียงที่ไหลผ่านอำเภอีกสายหนึ่งมาจนถึงปัจจุบันนี้<br /><br />ปัจจุบัน<br />อำเภอแม่สะเรียง ยังเป็นเมืองสำคัญของ 3 อำเภอ ของจังหวัดแม่ฮ่องสอนตอนใต้เป็นแห่งเกษตรกรรม พาณิชยกรรม และกระจายสินค้าได้สู่อำเภอต่าง ๆ สามารถส่งเสริมเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้โดยเฉพาะที่จุดพักรับรองนักท่องเที่ยวที่จะเป็นทางต่อไปยังอำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน<br />นอกจากนี้ ยังมีต้นทุนทางธรรมที่สายงาม ของป่าเขาลำเนาไพร แม่มีน้ำสาละวินอันลือชื่อ สวยงามด้วยทิวทัศนร์แปลกตาไปจากแม่น้ำระหว่างประเทศสายอื่น ๆ ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาแวะเวียนตลอดทั้งปี มีผ้าทอด้วยมือของชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงที่มีคุณภาพ มีกล้วยไม้ที่มีกลิ่นเฉพาะ หอมเย็นชื่นใจ คือ เอื้องแซะ นิยมเป็นของขวัญที่ล้ำค่าแก่บุคคลที่รักและเคารพนับถือ นอกจากนั้นยังมีวัดที่บรรจุพระธาตุของที่<br />ศักดิ์สิทธิ์ 4 แห่ง ได้แก่วัดจอมแจ้ง วัดพระธาตุจอมมอญ วัดจอมทอง และวัดจอมกิตติ บุคคลทั่วไปนิยมไปนมัสการกราบไว้ตามประเพ<br />ทุ่งบัวตอง ดอยแม่เหาะ <br />ห่างจากอำเภอแม่สะเรียงประมาณ 16 กิโลเมตร อยู่ริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108 ตรงหลักกิโลเมตรที่ 84 เขตตำบลแม่เหาะ เป็นที่ตั้งของศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขา จังหวัดแม่ฮ่องสอน ริมทางในช่วงนี้มีภูมิประเทศที่งดงามของภูเขาและทุ่งดอกบัวตองที่ตระการตาและเบ่งบานสะพรั่งในเดือนตุลาคม - ธันวาคม พระธาตุจอมมอญ <br />อยู่ที่หมู่ที่ 9 ตำบลบ้านกาด เป็นปูชนียสถานที่มีลักษณะเป็นเจดีย์เก่าแก่ ถือกันว่าเป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ และมีงานฉลองในเดือนกรกฎาคมของทุกปี <br /><br />วัดกิตติวงศ์ <br />ตั้งอยู่ในเขตสุขาภิบาลแม่สะเรียง เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่พระครูกิตตินำมาจากวัดศรีสุพรรณ จังหวัดเชียงใหม่ และยังมีพระคัมภีร์โบราณค้นพบในถ้ำผาแดง ริมฝั่งแม่น้ำสาละวิน เมื่อ พ.ศ. 2511 จารึกประวัติศาสตร์เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของล้านนากับพม่า <br /><br />วัดจองสูงหรือวัดอุทยารมณ์ <br />ตั้งอยู่ในตัวอำเภอแม่สะเรียง เป็นวัดที่สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2381 เดิมเป็นสำนักสงฆ์มีเจ้าอาวาสเป็นไทยใหญ่เมื่อปี พ.ศ. 2431 ถูกไฟไหม้ และได้บูรณะขึ้นใหม่เป็นวัดจองสูงตั้งแต่ปี พ.ศ. 2439 ภายในวัดมีเจดีย์ทรงมอญเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี อยู่ 3 องค์ เจดีย์องค์ด้านตะวันตกสร้างเมื่อต้นรัชกาลที่ 6 เจดีย์องค์กลางสร้างเมื่อใดไม่ปรากฏ เชื่อกันว่าเป็นที่ประดิษฐานพระธาตุ ส่วนเจดีย์องค์ด้านตะวันออกเป็นเจดีย์ 7 ยอด <br /><br />วัดจอมทอง <br />ตั้งอยู่ห่างจากอำเภอแม่สะเรียง 1 กิโลเมตร ตามเส้นทางสายแม่สะเรียง - สบเมย แยกทางซ้ายมือบริเวณสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดแม่ฮ่องสอน วัดนี้มีจุดเด่นที่พระพุทธรูปขนาดใหญ่ซึ่ง ประดิษฐานอยู่บนยอดเขาและบนลานพระพุทธรูปนี้สามารถชมทิวทัศน์อันสวยงามของอำเภอแม่สะเรียงได้ โดยเฉพาะบรรยากาศยามพระอาทิตย์ตกในช่วงเย็น <br /><br />งานประเพณีปอยส่างลอง<br />หรืองานบวชลูกแก้ว เป็นประเพณีบวชเณรตามธรรมเนียมของชาวไทยใหญ่ เพื่อให้บุตรหลานได้มีโอกาสศึกษาพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าและมีความเชื่อว่าจะได้รับบุญกุศลจากการบวชสามเณร งานนี้จัดให้มีขึ้นช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน ช่วงปิดเทอมฤดูร้อน โดยชาวบ้านจะตกลงกันกำหนดวันนัดหมายให้ลูกหลานได้บวชเรียนพร้อมๆ กัน มีการประดับประดาผู้ที่จะบวชด้วยเครื่องประดับมีค่าอย่างสวยงาม และประกอบพิธีบวชตามวัดที่เจ้าภาพศรัทธาแต่เดิมปอยส่างลองเป็นประเพณีที่จัดเฉพาะในหมู่ญาติมิตรของเจ้าภาพ ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2525 ได้เกิดมีแนวความคิดใหม่โดยจัดเป็นบรรพชาหมู่ร่วมกันมากถึง 200 รูป เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 200 ปี ทำให้ในเขตอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอนนิยมจัดบรรพชาหมู่สืบต่อมาถึงปัจจุบัน ปอยส่างลองจึงได้กลายเป็นประเพณีที่จูงใจให้มีผู้สนใจมากขึ้นกว่าแต่ก่อน <br /><br />งานประเพณีจองพารา<br />คือประเพณีส่วนหนึ่งในงานเทศกาลออกพรรษา (งานปอยเหลินสิบเอ็ด) คำว่า จองพารา เป็นภาษาไทยใหญ่แปลว่า ปราสาทพระ การบูชาจองพารา คือการสร้างปราสาทเพื่อคอยรับเสด็จพระพุทธเจ้าที่จะเสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เทศกาลนี้จัดขึ้นระหว่างวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ถึงวันแรม 8 ค่ำ เดือน 11 โดยก่อนถึงวันงานจะมีการจัดงานตลาดนัดออกพรรษามีการนำสินค้าต่างๆ ที่จะใช้ในการทำบุญ เช่น อาหาร ขนม ดอกไม้ เครื่องไทยทานมาวางขายเพื่อให้ชาวบ้านได้หาซื้อข้าวของเครื่องใช้ในการเตรียมงาน และมีการจัดเตรียมสร้าง จองพารา ซึ่งเป็นปราสาทจำลอง ทำด้วยโครงไม้ไผ่ ประดับลวดลายด้วยกระดาษสา กระดาษสีต่างๆ หน่อกล้วย อ้อยและโคมไฟ ตกแต่งอย่างสวยงามเพื่อใช้สมมติเป็นปราสาทรับเสด็จพระพุทธองค์จากสวรรค์ จากนั้นก็จะยก จองพารา ขึ้นไว้นอกชายคา นอกรั้ว หรือบริเวณกลางลานทั้งที่บ้านและที่วัดในวันขึ้น 15 ค่ำ อันเป็นวันออกพรรษานั้น ตั้งแต่เช้าตรู่ประชาชนพร้อมใจกันไปทำบุญตามวัด บางวัดจัดให้มีการตักบาตรเทโว ส่วนในตอนเย็นจะนำดอกไม้ธูปเทียนและขนมข้าวต้มไปขอขมาบิดามารดาและญาติผู้ใหญ่ก่อนย่ำรุ่งของวันแรม 1 ค่ำ จะมีพิธี ซอมต่อ คือการอุทิศเครื่องเซ่นแก่สิ่งที่ชาวไตถือว่ามีบุญคุณในการดำเนินชีวิต โดยนำกระทงอาหารเล็กๆ ที่จุดเทียนติดไว้ด้วยไปตั้งไว้ตามสถานที่ต่างๆ แสงประทีปนับร้อยนับพันดวงตามวัด สถูป และบ้านเรือนในตอนใกล้รุ่งเป็นภาพที่งดงามน่าประทับใจมากตลอดระยะเวลาของการจัดงานตั้งแต่แรม 1 ค่ำไปจนถึงแรม 8 ค่ำ จะมีการถวายข้าวที่จองพาราวันละครั้งและจุดเทียนหรือประทีปโคมไฟไว้ตลอดในช่วงเวลาตลอดเทศกาล จะมีการละเล่นเฉลิมฉลองหลายชนิด เช่น ฟ้อนโต ฟ้อนรูปสัตว์ต่างๆ ฟ้อนก้าแลว (ฟ้อนดาบ)เฮ็ดกวาม ฯลฯ ตามถนนหนทางและบ้านเรือนต่างๆ เป็นการละเล่นที่สืบเนื่องมาจากความเชื่อว่าสัตว์โลกและสัตว์หิมพานต์พากันรื่นเริงยินดีออกมาร่ายรำเป็นพุทธรูปรับเสด็จก่อนจะถึงวันแรม 8 ค่ำ จะมีพิธี หลู่เตนเหง คือ การถวายเทียนพันเล่ม โดยแห่ต้นเทียนไปถวายที่วัด และใน วันกอยจ้อด คือวันแรม 8 ค่ำ อันเป็นวันสุดท้ายของเทศกาลออกพรรษา จะมีพิธี ถวายไม้เกี๊ยะ โดยนำฟืนจากไม้เกี๊ยะ (สนภูเขา) มามัดรวมกันเป็นต้นสูงประมาณไม่ต่ำกว่า 2.5 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณไม่ต่ำกว่า 30 เซ็นติเมตร แล้วนำเข้าขบวนแห่ประกอบด้วยฟ้อนรูปสัตว์ต่างๆ และเครื่องประโคมไปทำพิธีจุดถวายเป็นพุทธบูชาที่ลานวัด เป็นอันสิ้นสุดเทศกาลออกพรรษาของชาวไต<br />ประเพณีลอยกระทง<br />หรืองานเหลินสิบสอง จัดขึ้นในวันเพ็ญเดือนสิบสอง โดยชาวบ้านจะจัดทำกระทงเล็กๆ ไปลอยตามแม่น้ำ มีการประกวดกระทงใหญ่ที่หนองจองคำ ซึ่งเป็นหนองน้ำสาธารณะกลางเมือง มีการแสดงมหรสพรื่นเริง ตามบ้านเรือนจะมีการจุดประทีปโคมไฟสว่างไสว นอกจากนี้ยังมีการลอยกระทงสวรรค์ โดยนำกระทงที่จุดประทีปโคมไฟแล้วผูกติดกับลูกโป่งลอยขึ้นไปในอากาศ พิธีนี้จัดขึ้นที่วัดพระธาตุดอยกองมูนอกจากนี้ ยังมีศิลปะที่น่าสนใจของชาวไตคือศิลปะการแสดงและดนตรีซึ่งแตกต่างจากของล้านนา และมักจะนำเข้ามาร่วมในงานบุญงานแห่ต่างๆ อยู่เสมอ อาทิ ฟ้อนกิงกะหล่า หรือฟ้อนกินรี ซึ่งได้รับความนิยมที่สุด ผู้แสดงจะใส่ปีกใส่หางบินร่ายรำ นอกจากนี้ยังมีการฟ้อนตัวสัตว์ต่างๆ ที่มีความเชื่อว่าอาศัยอยู่ที่ป่าหิมพานต์ เช่น ฟ้อนนก ฟ้อนผีเสื้อ ฟ้อนม้า เป็นต้น <br /><br />ฟ้อนโต<br />เป็นการแสดงที่นิยมกันอีกชุดหนึ่ง ตัวโตนั้นเชื่อกันว่าเป็นสัตว์ป่าในหิมพานต์ชนิดหนึ่ง มีเขาคล้ายกวางและมีขนยาวคล้ายจามรี มีลักษณะร่ายรำคล้ายการเชิดสิงโตของจีนนอกจากนี้ ยังมีการแสดงอื่นๆ อีกหลายชุด ได้แก่ ฟ้อนดาบ หรือที่เรียกว่า ฟ้อนก้าแลว ฟ้อนไต เป็นการฟ้อนต้อนรับผู้มาเยือน รำหม่อง ส่วยยี เป็นการรำออกท่าทางคล้ายพม่า และ มองเซิง เป็นการรำประกอบเสียงกลองมองเซิง <br /><br />งานเทศกาลชิมชาบ้านไท<br />จัดขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ บริเวรหมู่บ้านรักไท หมู่ 6 ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง หมู่บ้านรักไทเป้นหมู่บ้านชายแดน อยู่ในความควบคุมของกองทัพภาคที่ 3 ราษฏรมีอาชีพปลูกชาเป็นหลักมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเดินทางขึ้นไปเที่ยวเป็นจำนวนมากการจัดงานเทศกาลชิมชานี้ เพื่อเป็นกาลสนับสนุนเกษตรกรผู้ปลูกชาและส่งเสริมการท่องเที่ยวของหมู่บ้าน ภายในงานมีการขี่ม้ารอบหมู่บ้าน เที่ยวชมธรรมชาติ ชิมชาชั้นดี ชมการแสดงจากชาวจีนยูนาน และการละเล่นพื้นบ้าน <br /><br />งานเทศกาลดอกบัวตอง<br />จะจัดขึ้นประมาณเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ดอกบัวตอง เป็นดอกไม้ป่าสีเหลืองคล้ายดอกทานตะวันแต่ขนาดเล็กกว่า มักขึ้นอยู่ตามป่าเขาสูงทางตอนเหนือของประเทศไทย ในจังหวัดแม่ฮ่องสอนจะมีมากที่บริเวณบ้านแม่เหาะ อำเภอแม่สะเรียง และดอยแม่อูคอ อำเภอขุนยวม เมื่อถึงระยะที่ดอกบัวตองบานตามริมเส้นทางตลอดจนภูเขาที่สลับซับซ้อนกันอยู่นั้นจะเป็นสีเหลืองสว่างไสวไปด้วยสีของดอกบัวตองดูงดงามมาก ทางจังหวัดแม่ฮ่องสอนจึงได้จัดงานเทศกาลบัวตองบานขึ้นเพื่อเป็นการชมความงามของธรรมชาติ และชมวัฒนธรรมประเพณีของชาวไต และชาวไทยภูเขา โดยจะจัดที่บริเวณอำเภอขุนยวม ในงานมีการละเล่นและมหรสพทั้งของพื้นเมืองและร่วมสมัย มีการประกวดธิดาบัวตอง การแสดงศิลปวัฒนธรรมชาวไทยภูเขา การแสดงสินค้าพื้นเมือง การแข่งขันกีฬาชาวดอย ฯลฯ ตลอดจนนิทรรศการต่างๆ และการนำเที่ยวชมดอกบัวตองบนดอยแม่อูคอบ้านยอดตำลืง เชียงดาวhttp://www.blogger.com/profile/12045901187752010250noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5548910501178978691.post-51698820358607616202008-09-03T21:30:00.001-07:002010-10-11T22:13:36.363-07:00ทำบุญไหว้พระหลายวัดที่แม่สะเรียงอำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เดิมชื่อเมืองยวม เป็นชุมชนเมืองเก่าแก่มานาน ที่มีวัฒนธรรมที่หลากหลายเชื้อชาติและชนเผ่า หลายศาสนา แต่ความแตกต่างดังกล่าวหาได้ทำให้การอยู่ร่วมกันไม่มีปัญหาแต่อย่างใดสามารถประกอบอาชีพและมีส่วนร่วมกับชุมชนอย่างมีอัธยาศัย พึ่งพากันเป็นอย่างดี<br />ทางด้านศาสนามีสถานที่ประกอบศาสนกิจของแต่ละศาสนาเช่น วัดไทย วัดไทยใหญ่ วัดพม่า โบสถ์คริสเตียน โบสถ์คริสตัง มัสยิส<br />สำนักสงฆ์ สำนักฤษี บางกลุ่มยังนับถือ ผีต่างๆก็มี<br />เมืองแม่สะเรียงได้ชื่อว่าเป็นมืองพระธาตุ สี่จอมและยังมีวัดที่มีศิลปะที่แตกต่างทั้งล้านนา ไทยใหญ่ พม่า รวมทั้งพระพุทธรูปในแบบต่างๆ วัดบนพื้นราบและวัดที่อยู่บนภูเขา แต่ไม่ไกลนักสามารถเยี่ยมชม ทำบุญไหว้พระได้หลายวัดในเวลาไม่นาน ยังมีโอกาสได้ชม ศึกษาความเป็นอยู่ในท้องถิ่นอีกด้วยบ้านยอดตำลืง เชียงดาวhttp://www.blogger.com/profile/12045901187752010250noreply@blogger.com0